หลักปฎิบัติ 5 ประการ ก่อนกู้เงินซื้อบ้าน
ประการแรก
สำรวจความพร้อม ของ ตัวเองก่อนตัดสินใจจะกู้เงินซื้อบ้าน โดยเฉพาะในเรื่องของ ฐานะ ทางการเงินว่ามั่นคงและ มั่นใจพร้อมที่จะผ่อนบ้าน แล้ว หรือไม่ ในเบื้องต้น จำนวนเงินงวด ที่ผ่อนชำระ แต่ละเดือน นั้นไม่ควรเกินกว่า 30-40% ของรายได้ที่สำคัญ ต้องตรวจสอบดูว่าตัวเองเค ยมีการติดค้างการชำระเงินกู้ ไม่ว่าจะเป็นค่างวดรถยนต์ ค่างวดเงินกู้อื่น ๆ ติดหนี้บัตรเครดิต หรืเคยจ่ายเช็คเด้ง เป็นต้น เพราะ ปัจจุบันสถาบันการเงินทุกแห่งต่าง เข้มงวดและตรวจสอบ ประวัติการเงินของผู้กู้ ทุกราย
โดยจะใช้ฐานข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลเครดิต (Credit Bureau) เป็น ข้อมูลประกอบการวิเคราะห์การอนุมัติสินเชื่อ หากเคยมีประวัติ เช่นนี้เรียกว่าติดแบล็คลิสท์ก็จะไม่ได้รับการอนุมัติเงินกู้
ในส่วนของผู้กู้ที่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ ควรจะสร้างเครดิตให้กับตนเองด้วยการเปิดบัญชีเงินฝาก เพื่อ แสดงให้เห็นถึงสถานะทางการเงินโดยมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนขึ้นไป หรือแม้แต่ผู้กู้ที่มีอาชีพประจำก็ตาม ควรจะปรับปรุงสมุดบัญชีเงินฝากเป็นประจำสม่ำเสมอ ทั้งนี้ สามารถตรวจสอบความสามารถในการกู้และการผ่อนชำระก่อนได้ที่สถาบันการเงินทั่วไป รวมทั้ง เว็บไซด์ของสถาบัน การเงินทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะช่วยให้ผู้กู้รู้ถึงความสามารถ ของตน และ จัดเตรียม หาผู้กู้ร่วมไว้ก่อนในกรณีที่ ไม่สามารถกู้เพียงคนเดียวได้
ประการที่สอง
หาแหล่งเงินกู้ที่สนใจจะใช้บริการซึ่งแหล่งเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยสามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม หลัก ๆ ด้วยกันคือ กลุ่มแรก สถาบันการเงินของรัฐ เช่น ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารกรุงไทยและธนาคารออมสิน กลุ่มที่สอง ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน (บริษัทเงินทุน, บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์) กลุ่มที่สาม บริษัทประกันชีวิตที่ให้บริการ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
ในส่วนสถาบันการเงินของรัฐ เนื่องจากเป็นธนาคารของรัฐบาล จึงค่อนข้างได้รับความไว้วางใจ จากประชาชนทั่วไป และ อาจมี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำกว่าสถาบันการเงินเอกชนได้เล็กน้อย
ส่วนธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินเอกชน (บริษัทเงินทุน บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์) มีการแข่งขัน ในตลาดสูงทำให้แต่ละแห่ง เปิดให้บริการสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลากหลายรูปแบบ ให้เลือกตามความต้องการ ตลอดจน การอำนวยความสะดวก ด้านการบริการที่รวดเร็ว กลุ่มนี้จะมีต้นทุนในการดำเนินการที่สูง อัตราดอกเบี้ยจะมีการเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ค่อนข้างจะรวด เร็วกว่าธนาคารของภาคของภาครัฐ
ขณะที่กลุ่มของบริษัทประกันชีวิต แม้จะสามารถให้บริการ สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย แก่ประชาชนทั่วไป ได้เช่นเดียวกับ ธนาคารพาณิชย์ หรือ สถาบันการเงิน แต่ต้องอยู่ภายใต้ หลักเกณฑ์และเงื่อนไข อาทิ ให้กู้ยืมได้แต่ละรายไม่เกิน 5,000,000 บาท หรือไม่เกิน 85% ของราคาปะเมินหลักทรัพย์ หรือ ราคาที่เสนอขาย ดังนั้นแหล่งเงินจากลุ่มนี้จึง อาจขาดความยืดหยุ่นในการให้บริการเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มแรกและกลุ่มที่สองตรงนี้ก็แล้วแต่ว่าใครจะพึงพอใจเงื่อนไขข้อเสนอสินเชื่อจากสถาบันการเงินใด
ประการที่สาม
เงื่อนไขของแต่ละสถาบันการเงินให้รอบคอบ ที่เห็นชัดเจนขณะนี้คือ การแข่งขันในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบคงที่ และลอยตัว หากผู้กู้ต้องการความมั่นใจ ว่าจะ ไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ขึ้นลง การเลือกใช้อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ จะทำให้ ผู้กู้สามารถวางแผนด้านการชำระเงินค่าบ้านได้อย่างชัดเจน...
แต่ถ้าคิดว่าอัตราดอกเบี้ยมีโอกาสเปลี่ยนแปลงไปกว่าอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ในปัจจุบันก็สามารถเลือกใช้อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัวได้การจะพิจารณาเลือกแหล่งเงินกู้หรือรูปแบบของบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยขอให้ผู้กู้คำนึงถึงความต้องการและเงื่อนไขความจำเป็นขงตนเองเป็นที่ตั้งจากนั้นพิจารณาดูว่าข้อเสนอของสาบันการเงินใด ที่ตรงกับเงื่อนไข ที่ตั้งไว้ ให้มากที่สุด ก็น่าจะช่วยทำให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ประการที่สี่
การจัดเตรียมเอกสารหลักฐานสำคัญประกอบการยื่นเรื่องขอกู้เอกสารที่ใช้ประกอบการยื่นเรื่องขอกู้นั้นจะเหมือนๆกันในทุกสถาบันการเงิน ที่สำคัญหลักๆ ประกบด้วยเอกสารแสดงข้อมูลส่วนตัว เอกสารแสดงรายได้และเอกสารของหลักทรัพย์ดังนี้
เอกสารแสดงข้อมูลส่วนตัว
• สำเนาบัตรประชาชน/ ข้าราชการ (ผู้กู้ทุกคน)
• สำเนาทะเบียนบ้านผู้กู้ทุกคน (ทุกหน้า)
• สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ/สกุล (ถ้ามี)
• สำเนาทะเบียนสมรส/ใบหย่า/ใบมรณบัตร (ถ้ามี)
• แผนที่ตั้งที่พักอาศัยปัจจุบัน/ที่ทำงาน
• สำเนาสัญญากู้/สัญญาจำนอง/Statement
ใบเสร็จการผ่อนชำระย้อนหลัง 12 เดือน
(กรณีไถ่ถอนจำนอง)
เอกสารแสดงรายได้
กรณีประกอบอาชีพประจำ ข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ/ลูกจ้างบริษัท
• ใบรับรองเงินเดือนจากหน่วยงาน/สลิปเงินเดือน
• สำเนาบัญชีเงินฝากธนาคาร/ใบเสียภาษีเงินได้
• หลักฐานแสดงรายได้อื่น ๆ (ถ้ามี)
กรณีประกอบอาชีพอิสระ
• สำเนาทะเบียนการค้า/
หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล
• ทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม/ใบเสียภาษีเงินได้
• Statement/บัญชีเงินฝากกระแสรายวัน/
บัญชีเงินฝากธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน
• โฉนดที่ดิน หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุดหรือ
นส.3ก พร้อมสารบัญจดทะเบียนทุกหน้า
(สำเนาทุกหน้า จำนวน 2 ชุด)
กรณีไถ่ถอนจำนองและชำระหนี้
แผนที่แสดงที่ตั้งหลักประกันโดยสังเขป
*การยื่นเอกสารที่ครบถ้วนตามที่สถาบันการเงินกำหนดไว้จะช่วยให้การพิจารณา อนุมัติสินเชื่อเป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาส่งเอกสารเพิ่มเติมภายหลัง
ประการสุดท้าย
ขอแนะนำว่าให้หาแหล่งเงินกู้ที่อยู่ในเกณฑ์ที่สนใจเผื่อไว้สัก 2-3 แห่ง เผื่อพลาดจากแห่งหนึ่ง ก็ยังมีอีก 2 แห่งที่จะให้คำตอบได้ แต่ทั้งนี้ และทั้งนั้นหากมีข้อจำกัดในเรื่องที่สถาบันการเงินบางแห่ง อาจจะคิดค่า ธรรมเนียมในการประเมินราคาหลักประกัน (บ้านที่จะซื้อ) ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายมาก ตรงนี้มีทางเลือกคือ ยังมีบางสถาบันการเงิน ที่ไม่คิดค่าบริการดังกล่าว ลองพิจารณาเงื่อนไขนี้ไว้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ไม่น้อย
E-NEWS
รับข่าวสารและสิทธิพิเศษ สมัครเลยวันนี้!
SINGLE HOUSE
TOWN HOUSE
CONDO TOWN
ABOUT US
REAL ESTATE & LAWS
CONTACT
2174 ถ.ลาดพร้าว แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. 10310
© 2016 Mahavis Co.,Ltd. All Rights Reserved.